พิชิต ไทยยืนวงษ์
cichlidbox@hotmail.com
นับหนึ่งใหม่กับการเลี้ยงปลาอย่างถูกวิธี
การเลือกซื้อปลา
จัดได้ว่าปลาเป็นสัตว์เลี้ยงที่นิยมกันแพร่หลายมากที่สุดในโลก ว่ากันตั้งแต่เศรษฐีเงินล้านกับบ่อปลาคาร์พสุดอลังการหรือปลามังกรทองตัวเป็นแสน ๆ ลงมาจนถึงเด็กหัวเกรียนตัวกระเปี๊ยกกับปลากัดตัวละไม่ถึงสิบบาทเลี้ยงในขวดเหล้าแบนซึ่งมีจำนวนมากน้อยขึ้นอยู่กับการบริโภคของบิดา
คนชั้นกลางส่วนใหญ่เลี้ยงปลาเอาไว้ดูเล่นให้เพลิดเพลินสบายอกสบายใจ กลับจากทำงานเหนื่อย ๆ ได้มานั่งดูปลาว่ายไปมาในตู้น้ำใสแจ๋ว จิบเบียร์เย็น ๆ (หรือน้ำส้มคั้นสำหรับคุณผู้หญิง หรือนมไวตามิลค์สำหรับเด็กนักเรียน) อารมณ์ก็ปลอดโปร่งสดชื่น ทางการแพทย์กล่าวไว้ว่าคนที่เลี้ยงปลามักมีสุขภาพจิตที่ดี เมื่อจิตใจดีก็ย่อมนำพาให้ร่างกายแข็งแรงไปด้วยตามกัน นี่จึงเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้คนหันมาเลี้ยงปลามากขึ้นทุกวัน ๆ
เมื่อคนชอบเลี้ยงปลา ก็ต้องมีคนชอบขายปลาด้วยเป็นของคู่กัน ร้านขายปลาเปิดกันทั่วบ้านทั่วเมือง พบเห็นได้ไม่ยากยิ่งโดยเฉพาะตอนกลางคืนในร้านจะสว่างด้วยแสงไฟจากตู้ปลาเรียกร้องเชิญชวนให้เข้าไปเยี่ยมชม แต่ระวังอย่าเข้าผิดร้านที่มีแสงไฟและตู้กระจกเหมือนกัน ทว่าสิ่งที่อยู่ในนั้นกลับกลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าน้องหนูแทน อันนี้นัยว่าจะเสียสตางค์หนัก แถมทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยสนับสนุนอีกด้วย
พูดถึงเรื่องอื่น ๆ ซึ่งเป็นพื้นฐานกันไปแล้ว คราวนี้มาว่ากันเรื่องการเลือกซื้อปลาบ้าง
ผมมีข้อแนะนำสำหรับนักเลี้ยงมือใหม่ในการเลือกซื้อปลาดังนี้ครับ
1 เลือกร้าน
2 เลือกคนขาย
3 เลือกปลา
ตามหัวข้อครับ 1 เลือกร้าน
ร้านขายปลาไม่จำเป็นต้องใหญ่ ไม่จำเป็นต้องเลิศหรู แต่ควรเป็นร้านที่มีการบริหารจัดการได้ดี มีความเป็นระเบียบเรียบร้อยและสะอาดสะอ้าน พูดง่าย ๆ คือถูกสุขลักษณะอนามัยนั่นเอง ภายในร้านมีการจัดวางที่ถูกต้อง แบ่งประเภทของปลาชัดเจนไม่ปนกันมั่ว ถ้ามีอุปกรณ์การเลี้ยงขายด้วยก็ต้องดูว่าไม่เก่าเขลอะและมีตัวเลือกให้มากพอสมควร ร้านขายปลาส่วนใหญ่ พูดตรง ๆ คือไม่ค่อยสะอาด มักมีน้ำเจิ่งนองพื้นเฉอะแฉะ บางร้านกลิ่นคาวคลุ้งเพราะขายเหยื่อสดประเภทกุ้งฝอย ไส้เดือนน้ำ ไรทะเล ลูกปลานิล อาหารสดพวกนี้มีการตายอยู่ตลอดเวลาทำให้น้ำเน่าเสียเร็วมาก ถ้าร้านไหนไม่ใส่ใจเปลี่ยนถ่ายน้ำบ่อยก็จะเกิดกลิ่นดังว่าให้ลูกค้าได้รู้สึกตั้งแต่ยังไม่ทันเดินเข้าร้านด้วยซ้ำ
ร้านที่สะอาด จัดวางได้ดีเป็นระเบียบ ย่อมส่อให้เห็นถึงความใส่ใจและความรักในวิชาชีพ ซึ่งแน่นอนมันจะต้องดีต่อไปถึงตัวสินค้านั่นก็คือปลาในตู้ด้วย
2 เลือกคนขาย คนขายปลาที่ดีมีน้อยกว่าคนขายปลาที่แย่ อันนี้เป็นเรื่องปรกติพบเห็นได้ทั่วไปทุกวงการ การเลี้ยงปลาถือเป็นศาสตร์อย่างหนึ่งที่ต้องอาศัยการศึกษา การสังเกตจดจำ ที่สำคัญต้องมีประสบการณ์และใจรักอย่างที่สุด คนขายปลาที่ดีมักไม่ค่อยเชียร์ให้ซื้อดะ แต่จะแนะนำผู้ซื้อตามความเหมาะสม ส่วนคนขายที่ไม่ค่อยจะดีนักมักเชียร์อย่างกับเด็กเชียร์แขก เชียร์กันอย่างออกหน้าออกตา ถึงขนาดปลาที่เขาเลี้ยงจะปลิ้นตู้อยู่แล้วก็ยังอุตส่าห์บอกว่าเลี้ยงเพิ่มได้อีกเพ่ สบ๊าย
ก่อนตัดสินใจซื้อปลาจึงควรต้องพิจารณาคนขายเสียก่อน เพราะคนขายเป็นองค์ประกอบสำคัญสำหรับนักเลี้ยงมือใหม่ เราคงไม่อยากทำบาปซื้อปลามาตามคำแนะนำมั่ว ๆ หรือเชียร์กันชนิดหัวปักหัวปำ แต่เอาเข้าจริงเลี้ยงแล้วไม่รอด ตายแล้วตายอีก หากเจอคนขายประเภทนี้ควรเข้าเกียร์ถอยหลัง แล้วมองหาร้านอื่นต่อไปไม่ต้องรีบร้อน
เมื่อพบคนขายที่ดีแล้ว ก่อนที่จะเปิดประเด็นการซื้อขายควรบอกเขาเสียก่อนว่าตู้ที่เรามีอยู่นั้นขนาดเท่าไหร่ โดยบอกเป็นความกว้าง ความยาวและความสูง ถ้ามีปลาเลี้ยงอยู่ก่อนแล้วต้องบอกด้วยเพื่อที่เขาจะได้ช่วยจัดสรรให้ว่าควรเพิ่มปลาอะไรลงไปได้อีกโดยไม่เกิดความขัดแย้งกันกับปลาเดิม
3 เลือกปลา เมื่อผ่านสองขั้นตอนแรกได้แล้วขั้นตอนสุดท้ายนี้ก็ไม่ยากนัก เพราะเมื่อร้านค้าดีคนขายมีความรู้ เราคงไม่ได้ปลาคุณภาพต่ำหรือปลาป่วยมาเลี้ยงอย่างแน่นอน แต่ก็อีกแหละครับ อะไรก็พลาดกันได้ไม่แน่เสมอไปดังนั้นตนจึงยังคงต้องเป็นที่พึ่งแห่งตนอยู่นั่นเอง
การเลือกซื้อปลาควรคำนึงถึงเรื่องของสายพันธุ์ก่อน ควรสอบถามถึงนิสัย พฤติกรรม ขนาดและอาหารการกินจากคนขายเพื่อจะได้มาพิจารณาถึงความเหมาะสมของเรา ไม่ใช่ว่าซื้อเพราะชอบสีชอบลายแต่เลี้ยงยังไงก็ไม่รู้ จะถามก็กลัวเสียฟอร์ม คนขายเขาก็ไม่รู้คิดว่าเรารู้จักปลาตัวนั้นดีจึงไม่ได้แนะนำเพราะเกรงจะโดนหาว่าดูถูก พอเอากลับไปถึงบ้านก็เลี้ยงไม่เป็น ไม่กี่วันก็ป่วยและตายเสียทั้งเงินเสียทั้งความรู้สึกเปล่า ๆ ปลี้ ๆ
เมื่อสอบถามจนแน่ใจแล้วว่าเราเลี้ยงได้แน่ จากนั้นถึงเป็นขั้นตอนการเลือกช้อน
ปลาในตู้นั้น ถ้าสุขภาพดีจะต้องมีอาการร่าเริง ว่ายน้ำไปมาตลอด (ยกเว้นในกรณีปลาชนิดที่มันไม่ว่ายน้ำเช่นพวกปลาแคทฟิช ซึ่งจะนอนกินบ้านกินเมืองทั้งวัน อันนี้ก็ข้ามไปพิจารณาตรงอื่นต่อไป) ปลาที่เชื่องและร่าเริงเมื่อเห็นคนจะต้องไม่ตื่นกลัวอันเป็นลักษณะชี้ชัดว่าปลายังไม่ชินตู้ ดวงตาต้องใสไม่ขุ่นเป็นฝ้า ไม่หายใจหอบ ไม่ว่ายเอาข้างเข้าถูกับวัสดุแข็ง ๆ ภายในตู้เหมือนคนไม่มีเหตุผลซึ่งแสดงว่าอาจมีพยาธิเกาะติดอยู่
เลือกปลาตัวที่ถูกใจได้แล้วต้องมาพิจารณาอีกว่ามีรูปร่างสมบูรณ์ไม่พิกลพิการ ให้มองจากด้านข้างเพื่อดูการเรียงตัวของเกล็ดและครีบหลัง ครีบท้อง ครีบก้นและครีบหาง จากนั้นมองหน้าตรงเพื่อเช็คความสมดุลย์ของลำตัว ไม่ว่ายเอียงไปข้างใดข้างหนึ่ง ปากต้องไม่เบี้ยว ครีบว่ายต้องครบสมบูรณ์ทั้งสองข้างและต้องไม่หุบลีบขณะว่ายน้ำ (บางตัวใช้แต่หางโดยหุบครีบว่ายเอาไว้ แสดงว่ากำลังเริ่มจะเป็นโรคอะไรสักอย่างเข้าให้แล้ว)
สีและขนาดของปลาหลายสายพันธุ์จะมีความแตกต่างกันในเพศผู้และเพศเมีย บางทีเราไม่รู้เลยตักเฉพาะตัวสีสด ๆ ใหญ่ ๆ หารู้ไม่ว่าได้แต่บุรุษเพศมาทั้งแก๊ง ตรงนี้หากไม่แน่ใจควรสอบถามคนขายเสียก่อน เพราะปลาส่วนใหญ่มักนิยมเลี้ยงรวมกันทั้งตัวผู้ตัวเมีย เพื่อให้เป็นธรรมชาติซึ่งก็เหมือนกับคนหรือสัตว์อื่น ๆ นั่นเองครับ
วันศุกร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553
การเลือกซื้อปลา
Labels:
มือใหม่เริ่มเลี้ยงปลา
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น