พิชิต ไทยยืนวงษ์
cichlidbox@hotmail.com
cichlidbox@hotmail.com
ว่ากันเรื่องของวัสดุตกแต่งตู้ปลากันบ้างครับ
การตกแต่งตู้ปลามีความจำเป็นไม่น้อย หลายคนอาจคิดว่าการตกแต่งเป็นเพียงส่วนประกอบเพื่อให้ตู้ปลาดูสวย ซึ่งจริง ๆ ก็ถูก หากแต่มันยังมีอะไรลึกซึ้งมากกว่านั้นครับ เอาง่าย ๆ ยกตัวอย่างบ้านของเรา หากเราได้อยู่ภายในบ้านซึ่งไม่มีอะไรเลย มีแค่หลังคาคุ้มหัวกับฝาสี่ด้าน ห้องน้ำตั้งไว้มุมหนึ่งแบบโล่งโจ้งโจ่งแจ้ง ครัวก็ตั้งก้อนเส้าเข้า หุงกินกันตายไปวัน ๆ นอนก็นอนเขลงระเกะระกะละม้ายนักโทษในคุกลาดยาว อย่างนี้คงไม่มีความสุข อยู่กันไปแบบซังกะตาย นานเข้าจิตใจก็เศร้าซึม สุขภาพไม่ดี ป่วยง่ายหายยาก เป็นโรคเรื้อรัง กินยากันไม่มีหมดมีสิ้น
พูดไปพูดมาก็เข้าตำราฮวงจุ้ยนั่นเอง สภาพแวดล้อมที่เราอยู่ส่งผลอย่างมากต่อชีวิตของเราทั้งชีวิตเชียวนะครับ
เช่นเดียวกับปลา หากเราคิดอยากเลี้ยงปลาสักตู้ ไม่ใช่แค่ซื้อหาตู้กับอุปกรณ์กรองน้ำก็สามารถเลี้ยงปลาได้ เรายังต้องมีเรื่องของการจัดตกแต่งตู้ปลาด้วย การตกแต่งนอกจากทำให้ตู้นั้นดูมีชีวิตชีวาสวยงามน่ามองแล้ว ยังทำให้ปลาที่เลี้ยงมีสุขภาพร่างกายและสุขภาพจิตดี ไม่เครียด เมื่อไม่เครียดระบบภูมิคุ้มกันหรืออิมมูนซิสเต็มในตัวปลาก็จะเต็มเปี่ยมไม่ถดถอย ปลาจะป่วยยาก อยู่กันยาวนานสร้างความชื่นบานให้แก่ผู้เป็นเจ้าของได้ตลอดช่วงชีวิตของมัน
การตกแต่งตู้ปลาไม่เหมือนการตกแต่งภายในบ้านหรือการจัดสวน อย่างคนเรานั้นเมื่อชอบอย่างไหนก็บรรเลงได้เลยไม่ต้องคำนึงถึงอะไรมาก เป็นคนจีนแต่ชอบสไตล์หลุยส์ใครจะทำไม หรือเป็นฝรั่งแต่อยากแต่งบ้านแบบบาหลีก็เห็นออกมาก ทว่าตู้ปลาต้องคำนึงให้ลึกซึ้งถึงรากเหง้าของปลาตัวที่เราต้องการเลี้ยง ว่ามันเป็นปลาชนิดอะไร สภาพของมันในธรรมชาติเป็นแบบไหน หากินอย่างไร เมื่อโตเต็มที่แล้วตัวจะใหญ่หรือเล็ก ฯลฯ
เช่นอยากเลี้ยงปลานีออน (Paracheirodon innesi) เมื่อได้ข้อมูลมาแล้วว่ามันเป็นปลาขนาดเล็ก โตเต็มที่ไม่เกิน 3-4 ซ.ม. ชอบอยู่รวมกันเป็นฝูงขนาดใหญ่ในแหล่งน้ำของป่าฝนเขตร้อนในทวีปอเมริกาใต้ ซึ่งในน้ำอุดมไปด้วยซากต้นไม้ซากพืชต่าง ๆ จนน้ำนั้นเป็นสีชาอ่อน ๆ ด้วยแทนนินที่ซึมออกมาจากซากเหล่านั้น อาจมีพืชน้ำขึ้นบ้างแต่ไม่มาก ส่วนใหญ่เป็นไม้กึ่งน้ำที่ขึ้นริมตลิ่งชูช่อขึ้นเหนือน้ำ สภาพน้ำค่อนข้างเย็น น้ำใสถึงแม้มีสีชา ค่าความเป็นกรดเป็นด่างอยู่ประมาณ 6.0-6.5 ซึ่งถือว่าเป็นกรดหน่อย ๆ (เพราะยางไม้หรือแทนนิน)
เราก็ควรเอาข้อมูลเหล่านี้มาเป็นรากฐานในการตกแต่งตู้ ซึ่งหากทำได้ใกล้เคียงหรือมีปัจจัยหลัก ๆ ให้อย่างครบถ้วน ปลานีออนของท่านก็จะมีสุขภาพดีไม่เจ็บไข้ได้ป่วย ไม่ตายโดยไร้สาเหตุ เคยสังเกตไหมครับว่าทำไมบางคนถึงซื้อปลานีออนมาเลี้ยงทีไรตายทุกที ไม่ตายยกฝูงทีเดียวก็ทะยอยตาย ที่เหลืออยู่ก็สีซีดเซ็งชีวิตไปวัน ๆ นั่นก็เพราะสภาพแวดล้อมที่เราจัดตกแต่งให้เขาไม่เหมาะสมนั่นเองครับ เช่นแทนที่จะใช้กรวดน้ำจืดหรือดินแต่กลับปูพื้นด้วยทรายทะเลหรือปะการังป่น อย่างนี้ค่าความเป็นกรดเป็นด่างหรือ pH ก็พุ่งกระฉูดอาจได้ถึง 7.5 เผลอ ๆ อาจถึง 8.0 หรือตกแต่งตู้ด้วยหินปูน หรือไม่ตกแต่งเลยปล่อยตู้ไว้โล่งโจ้ง นี่ก็จะทำให้ปลาเครียดเพราะโดยธรรมชาติปลานีออนมีศัตรูมากมายคอยจ้องจับกิน มันจึงชอบอยู่ในสภาพแวดล้อมที่รกครึ้มด้วยซากกิ่งไม้รกระเกะระกะซึ่งเป็นเสมือนรั้วคอยกันปลาตัวโต ๆ ที่หมายจะเข้ามากินพวกมันนั่นเอง
หรืออยากเลี้ยงปลาหมอสีจากทะเลสาบทังกันยิกา (Lake Tanganyika) ซึ่งเป็นทะเลสาบที่เกิดจากการแยกตัวของเปลือกโลก ทำให้มีความลึกอย่างมากและมีส่วนโครงสร้างเป็นหินปูน สภาพภายใต้ท้องทะเลสาบเป็นพื้นทรายสลับโขดหิน หาต้นไม้ขึ้นใต้ทะเลสาบได้ยากยิ่งเนื่องจากความลึกทำให้แสงลงไปได้ไม่เพียงพอ น้ำมีค่าความเป็นกรดเป็นด่างประมาณ 7.5-9.0 เรียกได้ว่าตรงกันข้ามกับสภาพแวดล้อมของปลานีออนจากทวีปอเมริกาใต้โดยสิ้นเชิง เมื่อเลี้ยงปลากลุ่มนี้จึงต้องใช้วัสดุปูพื้นที่ใกล้เคียงธรรมชาติเช่นทราย ตกแต่งด้วยหินวางทับสลับซับซ้อน ไม่จำเป็นต้องมีขอนไม้หรือพืชพรรณ การเลี้ยงก็ไม่จำเป็นต้องเป็นฝูงใหญ่ แต่ก็ไม่ควรเลี้ยงเป็นคู่เนื่องจากนิสัยของปลาในวงศ์ Cichlidae มักกัดทำร้ายกันเองหากมีจำนวนน้อย
การเรียนรู้ในสิ่งเหล่านี้นอกจากจะช่วยเราอย่างมากให้ตู้ดูสวยและปลามีสุขภาพแข็งแรงแล้ว ยังมีผลทางอ้อมให้เราได้เกิดการเรียนรู้ถึงระบบนิเวศน์ สภาพภูมิประเทศใต้น้ำของท้องถิ่นต่าง ๆ ตลอดจนสายพันธุ์ปลาที่สามารถใช้ชีวิตร่วมกันได้อย่างกลมกลืนไม่สร้างปัญหาซึ่งกันและกัน ผมสนับสนุนให้พ่อแม่ซื้อตู้ปลาให้ลูกสักใบกับหนังสือว่าด้วยการเลี้ยงปลาสักเล่มหนึ่ง (หาเอาเล่มที่เขียนดี ๆ หน่อยนะครับ) และปล่อยให้เขาเรียนรู้โดยมีเราคอยดูแลอยู่ห่าง ๆ เด็กที่ได้ใช้ความคิด ได้ตั้งคำถามและค้นหาคำตอบด้วยตัวเขาเองจะมีพัฒนาการทางสมองดีกว่าเด็กที่เน้นไปในทางท่องจำตำรา นี่เห็นมาแล้วหลายคน
ทีนี้มาว่ากันเรื่องของการตกแต่งตู้ปลา
โดยหลัก ๆ แล้ววัสดุที่ใช้ในการตกแต่งตู้ปลาก็ได้แก่
1 กรวดปูพื้น
ควรใช้กรวดสำหรับเลี้ยงปลาเท่านั้น ส่วนจะใช้ขนาดหยาบหรือละเอียดก็ขึ้นอยู่กับความชอบและความเหมาะสมกับชนิดของปลาที่จะเลี้ยง กรวดหยาบมากไปมักจะมีเศษอาหารตกลงไปสะสมในซอกร่องมากและไม่เหมาะกับการปลูกพืชน้ำ ส่วนกรวดละเอียดมากเกินไปก็อาจมีน้ำหนักเบาจนเวลาทำความสะอาดด้วยสายยางมักจะไหลออกมาพร้อมกับน้ำทำให้ท่อน้ำทิ้งในบ้านตัน
กรวดน้ำจืดมีรูปร่างกลมมน มีสีสันต่างกันตามแต่ชนิดหิน ส่วนกรวดบางอย่างมีรูปร่างแบนและมีคมเช่นพวกหินเกล็ดซึ่งมีสีสันสวยงาม
2 ก้อนหินหรือขอนไม้
เรามักใช้ก้อนหินหรือขอนไม้ประดับตกแต่งเพื่อให้ดูเป็นธรรมชาติ ก้อนหินใหญ่ดูสวยกว่าก้อนหินเล็ก แต่จะอันตรายมากหากวางไม่ดีเพราะน้ำหนักของมันจะกดทับกระจกตู้ให้แตกได้ การวางหินใหญ่จะต้องวางกับพื้นกระจกโดยตรงเสียก่อนค่อยเอากรวดปูพื้นมาเทจัดระดับ หรืออาจหาวัสดุบางอย่างมารองกันกระแทกเช่นแผ่นพลาสติกสำหรับกรองน้ำก็ใช้ได้ อย่าวางหินใหญ่บนกรวดปูพื้นเพราะปลาบางชนิดชอบขุดคุ้ย เมื่อขุดไปขุดมาหินร่วงทรุดลงกระแทกพื้นก็อาจจะทำให้กระจกแตกสร้างความเสียหายได้
ขอนไม้ก็เป็นตัวเลือกที่ดีมากสำหรับการแต่งตู้โดยเฉพาะตู้ที่เลี้ยงปลาจากป่าฝนเขตร้อนหรือปลาแม่น้ำ ขอนไม้โดยทั่วไปจะมีน้ำหนักเบา ลอยน้ำ และคายยางออกมาทำให้น้ำเปลี่ยนสี ควรซื้อขอนไม้ตามร้านขายปลาที่เป็นไม้แช่น้ำไว้นานจนจมได้เองและคายยางหมดแล้ว ราคาอาจแพงกว่าหน่อย แต่ก็คุ้มและปลอดภัยกว่า
3 วัสดุสำหรับให้ปลาหลบซ่อน
สำหรับปลาบางชนิดจะเครียดมากหากไม่มีที่หลบให้มัน เช่นกลุ่มปลาแคทฟิชและปลาหากินกลางคืน ปลาพวกนี้ในเวลาที่มีแสงสว่างมักจะหาที่แอบซ่อน ในธรรมชาติพวกมันหากินกลางคืนหรือเวลามืดโดยอาศัยอวัยวะดมกลิ่นเป็นเครื่องมือในการล่าเหยื่อ วัสดุหลบซ่อนอาจใช้ก้อนหินนั่นเองมาทำเป็นซอกหรือวางเหลื่อมซ้อนทับกันให้เป็นโพลง หรืออาจใช้วัสดุอื่นที่ไม่เป็นอันตรายต่อปลา เช่นกระถางดินเผา กะลามะพร้าวที่ขูดเนื้อออกหมดแล้วก็ใช้ได้เช่นกัน
4 พรรณไม้น้ำ
มีพรรณไม้น้ำมากมายหลายชนิดให้เลือกใช้ประดับตกแต่ง แต่ควรพิจารณาให้ดีเสียก่อนเพราะต้นไม้ก็เหมือนกับปลา มีความต้องการสภาพแสงและน้ำแตกต่างกัน ต้นไม้อย่างเฟิร์นหรืออนูเบียสชอบอยู่ในที่ร่มครึ้มแสงน้อยและน้ำเย็น ในขณะที่ต้นไม้น้ำส่วนใหญ่โดยเฉพาะต้นที่มีสีแดงจะชอบอยู่ในที่แสงจัด
5 ของประดับต่าง ๆ
อันนี้ไม่ค่อยสำคัญนักสำหรับปลา แต่บางคนชอบ เห็นแล้วกรี๊ดกร๊าดอยากได้ เช่นพวกของเล่น กังหันหมุนติ้ว ๆ จรเข้มีฟองน้ำออกมาจากปาก เปลือกหอย ฯลฯ บางอันออกแนวสยองเช่นโลงศพเปิดปิดได้ มีโครงกระดูกอยู่ข้างใน หรือเดี๋ยวนี้เห็นปั้นดินเผาเป็นรูปหัวกะโหลก มีหนอนชอนไชในเบ้าตา ไม่รู้ชอบกันไปได้ยังไงเนี่ย ไว้ผมจะเล่าต่อในตอนนหน้านะครับ
การตกแต่งตู้ปลามีความจำเป็นไม่น้อย หลายคนอาจคิดว่าการตกแต่งเป็นเพียงส่วนประกอบเพื่อให้ตู้ปลาดูสวย ซึ่งจริง ๆ ก็ถูก หากแต่มันยังมีอะไรลึกซึ้งมากกว่านั้นครับ เอาง่าย ๆ ยกตัวอย่างบ้านของเรา หากเราได้อยู่ภายในบ้านซึ่งไม่มีอะไรเลย มีแค่หลังคาคุ้มหัวกับฝาสี่ด้าน ห้องน้ำตั้งไว้มุมหนึ่งแบบโล่งโจ้งโจ่งแจ้ง ครัวก็ตั้งก้อนเส้าเข้า หุงกินกันตายไปวัน ๆ นอนก็นอนเขลงระเกะระกะละม้ายนักโทษในคุกลาดยาว อย่างนี้คงไม่มีความสุข อยู่กันไปแบบซังกะตาย นานเข้าจิตใจก็เศร้าซึม สุขภาพไม่ดี ป่วยง่ายหายยาก เป็นโรคเรื้อรัง กินยากันไม่มีหมดมีสิ้น
พูดไปพูดมาก็เข้าตำราฮวงจุ้ยนั่นเอง สภาพแวดล้อมที่เราอยู่ส่งผลอย่างมากต่อชีวิตของเราทั้งชีวิตเชียวนะครับ
เช่นเดียวกับปลา หากเราคิดอยากเลี้ยงปลาสักตู้ ไม่ใช่แค่ซื้อหาตู้กับอุปกรณ์กรองน้ำก็สามารถเลี้ยงปลาได้ เรายังต้องมีเรื่องของการจัดตกแต่งตู้ปลาด้วย การตกแต่งนอกจากทำให้ตู้นั้นดูมีชีวิตชีวาสวยงามน่ามองแล้ว ยังทำให้ปลาที่เลี้ยงมีสุขภาพร่างกายและสุขภาพจิตดี ไม่เครียด เมื่อไม่เครียดระบบภูมิคุ้มกันหรืออิมมูนซิสเต็มในตัวปลาก็จะเต็มเปี่ยมไม่ถดถอย ปลาจะป่วยยาก อยู่กันยาวนานสร้างความชื่นบานให้แก่ผู้เป็นเจ้าของได้ตลอดช่วงชีวิตของมัน
การตกแต่งตู้ปลาไม่เหมือนการตกแต่งภายในบ้านหรือการจัดสวน อย่างคนเรานั้นเมื่อชอบอย่างไหนก็บรรเลงได้เลยไม่ต้องคำนึงถึงอะไรมาก เป็นคนจีนแต่ชอบสไตล์หลุยส์ใครจะทำไม หรือเป็นฝรั่งแต่อยากแต่งบ้านแบบบาหลีก็เห็นออกมาก ทว่าตู้ปลาต้องคำนึงให้ลึกซึ้งถึงรากเหง้าของปลาตัวที่เราต้องการเลี้ยง ว่ามันเป็นปลาชนิดอะไร สภาพของมันในธรรมชาติเป็นแบบไหน หากินอย่างไร เมื่อโตเต็มที่แล้วตัวจะใหญ่หรือเล็ก ฯลฯ
เช่นอยากเลี้ยงปลานีออน (Paracheirodon innesi) เมื่อได้ข้อมูลมาแล้วว่ามันเป็นปลาขนาดเล็ก โตเต็มที่ไม่เกิน 3-4 ซ.ม. ชอบอยู่รวมกันเป็นฝูงขนาดใหญ่ในแหล่งน้ำของป่าฝนเขตร้อนในทวีปอเมริกาใต้ ซึ่งในน้ำอุดมไปด้วยซากต้นไม้ซากพืชต่าง ๆ จนน้ำนั้นเป็นสีชาอ่อน ๆ ด้วยแทนนินที่ซึมออกมาจากซากเหล่านั้น อาจมีพืชน้ำขึ้นบ้างแต่ไม่มาก ส่วนใหญ่เป็นไม้กึ่งน้ำที่ขึ้นริมตลิ่งชูช่อขึ้นเหนือน้ำ สภาพน้ำค่อนข้างเย็น น้ำใสถึงแม้มีสีชา ค่าความเป็นกรดเป็นด่างอยู่ประมาณ 6.0-6.5 ซึ่งถือว่าเป็นกรดหน่อย ๆ (เพราะยางไม้หรือแทนนิน)
เราก็ควรเอาข้อมูลเหล่านี้มาเป็นรากฐานในการตกแต่งตู้ ซึ่งหากทำได้ใกล้เคียงหรือมีปัจจัยหลัก ๆ ให้อย่างครบถ้วน ปลานีออนของท่านก็จะมีสุขภาพดีไม่เจ็บไข้ได้ป่วย ไม่ตายโดยไร้สาเหตุ เคยสังเกตไหมครับว่าทำไมบางคนถึงซื้อปลานีออนมาเลี้ยงทีไรตายทุกที ไม่ตายยกฝูงทีเดียวก็ทะยอยตาย ที่เหลืออยู่ก็สีซีดเซ็งชีวิตไปวัน ๆ นั่นก็เพราะสภาพแวดล้อมที่เราจัดตกแต่งให้เขาไม่เหมาะสมนั่นเองครับ เช่นแทนที่จะใช้กรวดน้ำจืดหรือดินแต่กลับปูพื้นด้วยทรายทะเลหรือปะการังป่น อย่างนี้ค่าความเป็นกรดเป็นด่างหรือ pH ก็พุ่งกระฉูดอาจได้ถึง 7.5 เผลอ ๆ อาจถึง 8.0 หรือตกแต่งตู้ด้วยหินปูน หรือไม่ตกแต่งเลยปล่อยตู้ไว้โล่งโจ้ง นี่ก็จะทำให้ปลาเครียดเพราะโดยธรรมชาติปลานีออนมีศัตรูมากมายคอยจ้องจับกิน มันจึงชอบอยู่ในสภาพแวดล้อมที่รกครึ้มด้วยซากกิ่งไม้รกระเกะระกะซึ่งเป็นเสมือนรั้วคอยกันปลาตัวโต ๆ ที่หมายจะเข้ามากินพวกมันนั่นเอง
หรืออยากเลี้ยงปลาหมอสีจากทะเลสาบทังกันยิกา (Lake Tanganyika) ซึ่งเป็นทะเลสาบที่เกิดจากการแยกตัวของเปลือกโลก ทำให้มีความลึกอย่างมากและมีส่วนโครงสร้างเป็นหินปูน สภาพภายใต้ท้องทะเลสาบเป็นพื้นทรายสลับโขดหิน หาต้นไม้ขึ้นใต้ทะเลสาบได้ยากยิ่งเนื่องจากความลึกทำให้แสงลงไปได้ไม่เพียงพอ น้ำมีค่าความเป็นกรดเป็นด่างประมาณ 7.5-9.0 เรียกได้ว่าตรงกันข้ามกับสภาพแวดล้อมของปลานีออนจากทวีปอเมริกาใต้โดยสิ้นเชิง เมื่อเลี้ยงปลากลุ่มนี้จึงต้องใช้วัสดุปูพื้นที่ใกล้เคียงธรรมชาติเช่นทราย ตกแต่งด้วยหินวางทับสลับซับซ้อน ไม่จำเป็นต้องมีขอนไม้หรือพืชพรรณ การเลี้ยงก็ไม่จำเป็นต้องเป็นฝูงใหญ่ แต่ก็ไม่ควรเลี้ยงเป็นคู่เนื่องจากนิสัยของปลาในวงศ์ Cichlidae มักกัดทำร้ายกันเองหากมีจำนวนน้อย
การเรียนรู้ในสิ่งเหล่านี้นอกจากจะช่วยเราอย่างมากให้ตู้ดูสวยและปลามีสุขภาพแข็งแรงแล้ว ยังมีผลทางอ้อมให้เราได้เกิดการเรียนรู้ถึงระบบนิเวศน์ สภาพภูมิประเทศใต้น้ำของท้องถิ่นต่าง ๆ ตลอดจนสายพันธุ์ปลาที่สามารถใช้ชีวิตร่วมกันได้อย่างกลมกลืนไม่สร้างปัญหาซึ่งกันและกัน ผมสนับสนุนให้พ่อแม่ซื้อตู้ปลาให้ลูกสักใบกับหนังสือว่าด้วยการเลี้ยงปลาสักเล่มหนึ่ง (หาเอาเล่มที่เขียนดี ๆ หน่อยนะครับ) และปล่อยให้เขาเรียนรู้โดยมีเราคอยดูแลอยู่ห่าง ๆ เด็กที่ได้ใช้ความคิด ได้ตั้งคำถามและค้นหาคำตอบด้วยตัวเขาเองจะมีพัฒนาการทางสมองดีกว่าเด็กที่เน้นไปในทางท่องจำตำรา นี่เห็นมาแล้วหลายคน
ทีนี้มาว่ากันเรื่องของการตกแต่งตู้ปลา
โดยหลัก ๆ แล้ววัสดุที่ใช้ในการตกแต่งตู้ปลาก็ได้แก่
1 กรวดปูพื้น
ควรใช้กรวดสำหรับเลี้ยงปลาเท่านั้น ส่วนจะใช้ขนาดหยาบหรือละเอียดก็ขึ้นอยู่กับความชอบและความเหมาะสมกับชนิดของปลาที่จะเลี้ยง กรวดหยาบมากไปมักจะมีเศษอาหารตกลงไปสะสมในซอกร่องมากและไม่เหมาะกับการปลูกพืชน้ำ ส่วนกรวดละเอียดมากเกินไปก็อาจมีน้ำหนักเบาจนเวลาทำความสะอาดด้วยสายยางมักจะไหลออกมาพร้อมกับน้ำทำให้ท่อน้ำทิ้งในบ้านตัน
กรวดน้ำจืดมีรูปร่างกลมมน มีสีสันต่างกันตามแต่ชนิดหิน ส่วนกรวดบางอย่างมีรูปร่างแบนและมีคมเช่นพวกหินเกล็ดซึ่งมีสีสันสวยงาม
2 ก้อนหินหรือขอนไม้
เรามักใช้ก้อนหินหรือขอนไม้ประดับตกแต่งเพื่อให้ดูเป็นธรรมชาติ ก้อนหินใหญ่ดูสวยกว่าก้อนหินเล็ก แต่จะอันตรายมากหากวางไม่ดีเพราะน้ำหนักของมันจะกดทับกระจกตู้ให้แตกได้ การวางหินใหญ่จะต้องวางกับพื้นกระจกโดยตรงเสียก่อนค่อยเอากรวดปูพื้นมาเทจัดระดับ หรืออาจหาวัสดุบางอย่างมารองกันกระแทกเช่นแผ่นพลาสติกสำหรับกรองน้ำก็ใช้ได้ อย่าวางหินใหญ่บนกรวดปูพื้นเพราะปลาบางชนิดชอบขุดคุ้ย เมื่อขุดไปขุดมาหินร่วงทรุดลงกระแทกพื้นก็อาจจะทำให้กระจกแตกสร้างความเสียหายได้
ขอนไม้ก็เป็นตัวเลือกที่ดีมากสำหรับการแต่งตู้โดยเฉพาะตู้ที่เลี้ยงปลาจากป่าฝนเขตร้อนหรือปลาแม่น้ำ ขอนไม้โดยทั่วไปจะมีน้ำหนักเบา ลอยน้ำ และคายยางออกมาทำให้น้ำเปลี่ยนสี ควรซื้อขอนไม้ตามร้านขายปลาที่เป็นไม้แช่น้ำไว้นานจนจมได้เองและคายยางหมดแล้ว ราคาอาจแพงกว่าหน่อย แต่ก็คุ้มและปลอดภัยกว่า
3 วัสดุสำหรับให้ปลาหลบซ่อน
สำหรับปลาบางชนิดจะเครียดมากหากไม่มีที่หลบให้มัน เช่นกลุ่มปลาแคทฟิชและปลาหากินกลางคืน ปลาพวกนี้ในเวลาที่มีแสงสว่างมักจะหาที่แอบซ่อน ในธรรมชาติพวกมันหากินกลางคืนหรือเวลามืดโดยอาศัยอวัยวะดมกลิ่นเป็นเครื่องมือในการล่าเหยื่อ วัสดุหลบซ่อนอาจใช้ก้อนหินนั่นเองมาทำเป็นซอกหรือวางเหลื่อมซ้อนทับกันให้เป็นโพลง หรืออาจใช้วัสดุอื่นที่ไม่เป็นอันตรายต่อปลา เช่นกระถางดินเผา กะลามะพร้าวที่ขูดเนื้อออกหมดแล้วก็ใช้ได้เช่นกัน
4 พรรณไม้น้ำ
มีพรรณไม้น้ำมากมายหลายชนิดให้เลือกใช้ประดับตกแต่ง แต่ควรพิจารณาให้ดีเสียก่อนเพราะต้นไม้ก็เหมือนกับปลา มีความต้องการสภาพแสงและน้ำแตกต่างกัน ต้นไม้อย่างเฟิร์นหรืออนูเบียสชอบอยู่ในที่ร่มครึ้มแสงน้อยและน้ำเย็น ในขณะที่ต้นไม้น้ำส่วนใหญ่โดยเฉพาะต้นที่มีสีแดงจะชอบอยู่ในที่แสงจัด
5 ของประดับต่าง ๆ
อันนี้ไม่ค่อยสำคัญนักสำหรับปลา แต่บางคนชอบ เห็นแล้วกรี๊ดกร๊าดอยากได้ เช่นพวกของเล่น กังหันหมุนติ้ว ๆ จรเข้มีฟองน้ำออกมาจากปาก เปลือกหอย ฯลฯ บางอันออกแนวสยองเช่นโลงศพเปิดปิดได้ มีโครงกระดูกอยู่ข้างใน หรือเดี๋ยวนี้เห็นปั้นดินเผาเป็นรูปหัวกะโหลก มีหนอนชอนไชในเบ้าตา ไม่รู้ชอบกันไปได้ยังไงเนี่ย ไว้ผมจะเล่าต่อในตอนนหน้านะครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น