Our Fish

วันจันทร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

เริ่มต้นการเลี้ยงปลาอย่างถูกวิธี

พิชิต ไทยยืนวงษ์
cichlidbox@hotmail.com

นับหนึ่งใหม่กับการเลี้ยงปลาอย่างถูกวิธี

เป็นเรื่องน่าแปลกที่ว่าของซับซ้อนอย่างเทคโนโลยีต่าง ๆ เช่น คอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือที่มีระบบอะไรต่อมิอะไรก็ไม่รู้ล้านกว่าอย่าง คนก็ยังอุตส่าห์เข้าอกเข้าใจโดยง่าย แต่อย่างของพื้น ๆ เช่นการเลี้ยงปลาแบบพื้นฐาน การดูแล การให้อาหาร ซึ่งเป็นเรื่องเรียนรู้ได้รวดเร็วแค่ไม่กี่นาที คนกลับไม่พยายามเข้าใจ หลายคนมักปฏิเสธที่จะฟังด้วยซ้ำ อ้างว่าไม่มีเวลา
เคยได้ยินไหมครับ คุณ ๆ เจ้าของร้านขายปลา ที่ลูกค้าจะเข้ามาถามว่ามีปลาอะไรเลี้ยงง่าย ๆ และไม่ตายบ้างไหม หรือว่ามาหาซื้อตู้ปลาชนิดชาตินี้ไม่ต้องทำอะไรกับมันอีกเลยนอกจากนั่งดู หรือปลาในร้านที่อยู่กันมาดิบดีตั้งนานนม พอลูกค้าซื้อไปอีกสองวันวิ่งหน้าเริดคิ้วขมวดมาโวยวายว่าปลาที่ซื้อไปตายเกลี้ยง หาว่าหลอกขายปลาคุณภาพไม่ดีให้หน้าตาเฉย
หรือคุณ ๆ นักเลี้ยงปลา เคยไหมครับเวลาไปถามความรู้จากร้านขายปลาแล้วเจอพวกมั่วนิ่ม ถามว่าปลาตัวนี้เลี้ยงง่ายไหมพวกก็พยักหน้า ถามว่าปลานีออนเลี้ยงรวมกับปลาหมอสีได้ไหมพวกก็พยักหน้าอีก หรือปลาป่วยอยากหายาไปใส่ ยังไม่ทันเล่าอาการพวกก็ส่งยาครอบจักรวาลน้ำสีน้ำเงินอื๋อกับเกลือสีเหลือง ๆ อีกหนึ่งถุง บอกว่าให้สาดใส่ลงไปในตู้สามวันครั้ง หายชัวร์ พอเอากลับไปทำ ปลาก็หายไปจากโลกนี้จริง ๆ เหลือทิ้งไว้เพียงความทรงจำอันน่าเศร้าให้เจ้าของไว้นึกเล่นและเข็ดการเลี้ยงปลาไปอีกนาน
ปัญหาที่นักเลี้ยงปลามือใหม่เจอกันไม่มีอะไรมาก ส่วนใหญ่แล้วก็จะเป็นเรื่องน้ำกับเรื่องสายพันธุ์ปลา
อย่างน้ำนี้เจอบ่อย พอซื้อปลาไปปุ๊บ เปิดน้ำก๊อกใส่ตู้ เทปลาจากถุง นั่งรอชื่นชมความงาม แต่แล้วก็ได้เห็นปลาชักกระตุกตัวสั่นว่ายหัวทิ่มหัวตำเพราะแพ้คลอรีนทยอยตายทีละตัวสองตัว...หรือนึกครึ้มใจอยากล้างตู้ปลา เลยจัดแจงตักปลาออกหมด กวาดเอากรวดหินของประดับตกแต่งออกมาขัดถู ที่ต้มฆ่าเชื้อโรคได้ก็ไม่รอช้าด้วยความเข้าถึงสุขอนามัย ตู้กระจกก็ขัดด้วยน้ำยาจนใหม่เอี่ยมใสแจ๋วเป็นตาตั๊กแตน เสร็จเรียบร้อยก็จัดตู้ เติมน้ำ ใส่ปลา...อย่างนี้ปลาก็ตายเช่นกันเพราะปรับตัวไม่ทัน แถมยังโดนพิษคลอรีนกับพิษที่เหลือตกค้างจากน้ำยาทำความสะอาดอีก ลำพังแค่การย้ายปลาจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่งอย่างฉับพลันก็มีปัญหาแล้ว
หรืออย่างเรื่องของสายพันธุ์ปลา บางคนไม่รู้จริง ๆ ว่าปลาตัวเล็ก ๆ สีสวย ๆ เหมือนปลาทะเลที่เรียกกันว่าปลาหมอแตงไทย ปลาหมอกล้วยหอม หรือปลาหมอลิลลี่ นั้นเมื่อโตขึ้นมาอีกนิดมันจะดุร้ายมาก เห็นว่าสวยน่ารักจึงซื้อไปเลี้ยงรวมกับปลาเงินปลาทอง ปลาหางนกยูง ได้ไม่กี่วันปลาเจ้าถิ่นเดิมค่อย ๆ ทยอยตาย สุดท้ายก็ไปต่อว่าต่อขานร้านค้าทั้งที่ตัวเองก็ไม่ได้บอกเขาแต่แรกว่าจะเอาไปเลี้ยงรวมกัน หรืออย่างปลาบางสายพันธุ์เป็นปลาน้ำกร่อยเช่นปลาปักเป้า (ปักเป้ามีทั้งน้ำกร่อย น้ำจืด และน้ำเค็ม แต่ส่วนใหญ่ที่ขายกันมักเป็นปลาน้ำกรอย) พอเอามาเลี้ยงในน้ำจืดได้สักระยะหนึ่งมันก็เริ่มซึม ไม่กินอาหาร และตายในที่สุด คนเลี้ยงก็ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับปลาของตัว บางคนพาลเลิกเลี้ยงปลาไปเลยด้วยคิดว่าเป็นคนดวงซวย เลี้ยงสัตว์ไม่ขึ้น คิดไปโน่น
ย้อนกลับมาเข้าเรื่องดีกว่า...
การเลี้ยงปลาให้ถูกวิธี จริง ๆ แล้วเป็นเรื่องง่ายและประหยัด ผมขอเริ่มตั้งแต่การเตรียมพร้อมและการเลือกซื้อวัสดุอุปกรณ์ก่อน จากนั้นค่อยยาวไปถึงเรื่องน้ำ การเลี้ยงและการดูแลรักษาต่อไป
วัสดุอุปกรณ์ที่จำเป็นต่อการเลี้ยงปลามีดังนี้
1 ตู้ปลา พร้อมขาตั้งและฝาปิด
2 ระบบกรองน้ำและอุปกรณ์เพิ่มอากาศ
3 วัสดุตกแต่งตู้ปลา
ว่ารายละเอียดกันตั้งแต่ข้อ 1 คือตู้ปลา ขาตั้งและฝาปิด
ตู้ปลาจะเลือกเล็กใหญ่ต้องดูความพร้อมของตัวเองเป็นสำคัญ เช่นว่าเป็นคนยุ่ง ธุรกิจรัดตัว เวลาว่างมีน้อยแต่ดันอยากเลี้ยงปลา เช่นนี้ต้องเลือกตู้ขนาดเล็ก เพราะทำความสะอาดง่ายและรวดเร็ว แต่ถ้ามีเวลาว่างมากสักหน่อยหรือมีคนคอยช่วยดูแลมีพื้นที่วางเพียงพอ จะเล่นตู้ใหญ่ไปเลยก็ยิ่งดี เพราะสำหรับปลานั้น ยิ่งตู้ใหญ่ ๆ ยิ่งมีความสุข ไม่ค่อยมีปัญหา
ตู้ปลาที่ดีควรทำด้วยกระจกที่มีความหนาพอสมควร อย่าหลงซื้อตู้ราคาถูกมาก ๆ แต่กระจกบางเฉียบเป็นแผ่นกระดาษ เพราะเนื้อที่สำหรับยึดติดกันโดยมีกาวซิลิโคนเป็นตัวเชื่อมอยู่ตรงสันความหนาของกระจก หากบางเกินไปการยึดเหนี่ยวก็น้อย ยิ่งตู้ที่จุน้ำจนเต็มมีโอกาสรั่วซึมได้ง่าย แถมยังอันตรายด้วยหากกระทบของแข็งเพียงเบา ๆ เช่นก้อนหินหรือไม้ที่ใช้ประดับตกแต่งในตู้ปลา
ก่อนซื้อตรวจดูตามขอบมุมที่เชื่อมซิลิโคน เนื้อซิลิโคนต้องเรียบเนียนไม่เป็นฟองอากาศภายใน เมื่อเอาเล็บจิกเนื้อซิลิโคนต้องยืดหยุ่นได้เล็กน้อย ไม่แข็งกระด้าง
ปัจจุบันมีผู้คิดประดิษฐ์ตู้ปลาแปลกใหม่พิลึกกึกกือออกมามากมาย แต่ตู้ที่คลาสสิกและแข็งแรงที่สุดก็ยังเป็นทรงสี่เหลี่ยมอยู่นั่นเอง ตู้ทรงนี้ให้ทัศนียภาพในการมองปลาดีกว่าตู้ประเภทโค้งครึ่งวงกลมหรือมีหลายเหลี่ยมหลายมุม มีผู้ยืนยันกับผมหลายรายว่านั่งดูปลาในตู้กระจกโค้งแล้วเวียนหัว ภาพปลาเพี้ยนแถมแสงสะท้อนยังเยอะเหลือหลายเพราะไม่ว่าจะมองมุมไหนแสงก็สามารถหักเหเข้าสู่ตาได้หมด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่ใช่ว่าตู้ประเภทนี้จะไม่มีข้อดีเอาเสียเลย จุดขายของตู้กระจกโค้งคือความกิ๊บเก๋เท่อินเทรนด์ โดยมากมีดีไซน์เข้าชุดรับกับเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้าน หลายคนที่เกลียดความแข็งทื่อมีแต่เหลี่ยมสันอย่างตู้ปลาธรรมดาจึงมักเลือกใช้ตู้กระจกโค้งแบบนี้
ฝาตู้ เป็นสิ่งของสำคัญอีกอย่างสำหรับการเลี้ยงปลา ฝาตู้นอกจากใช้ป้องกันไม่ให้ปลากระโดดออกมาจากตู้แล้วยังช่วยป้องกันฝุ่นควันหรือสิ่งสกปรกต่าง ๆ ที่สามารถปลิวลงไปผสมกับน้ำในตู้ทำให้ปลาได้รับพิษหรือทำให้น้ำสกปรกได้รวดเร็ว นอกจากนี้ฝาตู้แทบทุกรุ่นจะติดชุดหลอดไฟไว้ด้วย ทำให้ทัศนียภาพของตู้ปลาดูสวยสดชื่นด้วยความสว่างไสว แต่มีไม่น้อยที่นิยมเลี้ยงปลาโดยไม่ใช้ฝา เช่นปลาทองหรือตู้พรรณไม้น้ำ โดยจะติดตั้งเฉพาะชุดหลอดไฟซึ่งทำเป็นโคมวางไว้เหนือตู้ ข้อดีคือการระบายอากาศของตู้ดีกว่า ไม่อบอ้าว แต่ข้อเสียก็เรื่องที่บอก คืออาจมีฝุ่นหรืออะไรต่อมิอะไรลงไปเจือปนได้ง่าย ต้องระมัดระวังกันสักหน่อยหากชอบแบบนี้
ขาตั้ง ตู้ปลาเมื่อตกแต่งด้วยกรวดหินและเติมน้ำจนเต็มแล้วจะมีน้ำหนักมาก และด้วยความที่ทำจากกระจกซึ่งก็คือแก้ว มันจึงเปราะมากหากกระทบเข้ากับของแข็งหรือวางบนพื้นที่ไม่มั่นคง ขาตั้งตู้ปลามักทำด้วยเหล็ก ข้อดีของเหล็กคือแข็งแรงมาก รับน้ำหนักได้เป็นกระบุงโกย แต่ข้อเสียก็มีอยู่เช่นแพ้น้ำและความชื้น ถึงแม้จะพ่นกันสนิมและเคลือบสีไว้อย่างดีก็ตาม แต่หากทำเลที่ตั้งเฉอะแฉะเนืองนองด้วยน้ำก็มีสิทธิขึ้นสนิมได้ง่าย ๆ เหมือนกัน สนิมนี้จะค่อย ๆ กินเนื้อเหล็กจนผุกร่อนทำให้สูญเสียความทนทานต่อการรับน้ำหนัก ตู้อาจโค่นลงมาเมื่อไรก็ได้ บางท่านจึงเลี่ยงไปใช้ขาตั้งไม้ ไม้มีข้อดีคือไม่แพ้น้ำ (ต้องเป็นไม้ที่มีคุณภาพสูงอย่างไม้เต็งไม้แดง) และมีการยืดหยุ่นตัวดีกว่าเหล็ก ส่วนข้อเสียย่อมต้องมีเช่นกันคือจะให้แข็งแรงเท่าเหล็กต้องมีขนาดใหญ่กว่า จึงดูเทอะทะ ที่สำคัญคือราคาแพงมากและหาช่างเข้าไม้เก่ง ๆ ไม่ค่อยจะได้ (เพราะไอ้ที่เก่ง ๆ เขาไปรับทำเฟอร์นิเจอร์กันหมด) สรุปว่าจะใช้ขาตั้งแบบไหนก็ย่อมได้ทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับความชอบครับ

ไม่มีความคิดเห็น: